วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คำสรรพนาม


คำที่ใช้เรียกแทนคำนาม (คน สัตว์ สิ่งของ)
แบ่งเป็น 6 ประการ

บุรุษสรรพนาม    ใช้เรียกแทนตัวผู้พูด ผู้ฟัง   ผู้กล่าวถึง   ได้แก่


บุรุษที่ 1 ผู้พูด เช่น ฉัน ผม ข้าพเจ้า อาตมา เรา ดิฉัน


บุรุษที่ 2 คือผู้ฟัง เช่น เธอ ท่าน คุณ   แก


บุรุษที่ 3 คือ ผู้กล่าวถึง เช่น เรา พวกเรา พระองค์ท่าน


ประพันธสรรพนาม  ใช้เชื่อมประโยค ให้มีเนื้อความเชื่อมโยงกัน ได้แก่คำว่า ผู้, ที่, ซึ่ง, อัน
 เช่น ชายที่ อยู่ข้างๆเธอคือคุณพ่อของฉัน


วิภาคสรรพนาม   ใช้แทน คำนาม หรือสรรพนาม ที่แบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ ได้แก่ คำว่า บ้าง, ต่าง, กันเช่น ทุกๆคน ต่าง ก็ปิติยินดีกับการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของในหลวง


นิยมสรรพนาม   ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจง ได้แก่   คำว่า นี้, นี่, นั้น, โน้น, โน่นเช่น นั่น คือโรงเรียนเก่าของฉัน


อนิยมสรรพนาม  ใช้แทนนาม ที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง ได้แก่ คำว่า ใคร, ที่ไหน, อะไร, ใครๆ, ไหนๆ   เช่น  ใครๆ  ก็สอบเอนทรานซ์ติดถ้ามีความพยายาม


ปฤจฉาสรรพนาม   ใช้ตั้งหรือแสดงความเป็นคำถาม  เช่น  ใครจะไปกับฉัน   อะไรอยู่ใต้หมอน


 

หน้าที่ของคำสรรพนาม

1. เป็นประธานของประโยค เช่น   ฉันสอบได้คณะวารศาสตร์และสื่อสารมวลชน


2.  เป็นกรรมของประโยค   เช่น   คุณครูตีเขา


3.  เป็นส่วนเติมเต็ม เช่น พี่ติ๊กหน้าเหมือนแฟนฉันมาก


4.  เป็นผู้รับใช้ (ประโยคการิต) เช่น คุณพ่อใช้เธอไปเก็บมะลิมาร้อยมาลัย


5.  ทำหน้าที่เชื่อมประโยค   เช่น แม่กวาดใบไม้ที่อยู่หน้าบ้าน

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คำภาษาเขมรในภาษาไทย

คำภาษาเขมรในภาษาไทย

ภาษาเขมรเป็นภาษาคำโดด จัดอยู่ในตระกูลมอญ-เขมร คำดั้งเดิมส่วนใหญ่เป็น
คำพยางค์เดียวและเป็นคำโดด ถือเอาการเรียงคำเข้าประโยคเป็นสำคัญเช่นเดียวกับภาษาไทย แต่มีลักษณะบางอย่างต่างไปจากภาษาไทย

ลักษณะคำภาษาเขมรในภาษาไทย

  1. มักจะสะกดด้วย จ ญ ร ล เช่น เผด็จ บำเพ็ญ กำธร ถกล ตรัส
  2. มักเป็นคำควบกล้ำ เช่น ไกร ขลัง ปรุง
  3. มักใช้ บัง บัน บำ นำหน้าคำที่มีสองพยางค์ เช่น
    บัง บังคับ บังคม บังเหียน บังเกิด บังคล บังอาจ
    บัน บันได บันโดย บันเดิน บันดาล บันลือ
    บำ บำเพ็ญ บำบัด บำเหน็จ บำบวง
  4. นิยมใช้อักษรนำ เช่น สนุก สนาน เสด็จ ถนน เฉลียว เป็นต้น
  5. คำเขมรส่วนมากใช้เป็นราชาศัพท์ เช่น ขนง ขนอง เขนย เสวย บรรทม เสด็จ โปรด เป็นต้น
  6. มักแผลงคำได้ เช่น
    - ข แผลงเป็น กระ เช่น ขดาน เป็น กระดาน ขจอก เป็น กระจอก
    - ผ แผลงเป็น ประ ผสม - ประสม ผจญ - ประจญ
    - ประ แผลงเป็น บรร ประทม เป็น บรรทม ประจุ - บรรจุ ประจง - บรรจง
การยืมคำภาษาเขมรมาใช้ในภาษาไทย
  1. ยืมมาใช้โดยตรง เช่น กระดาน กระท่อม กะทิ บัง โปรด ผกา เป็นต้น
  2. ยืมเอาคำที่แผลงแล้วมาใช้ เช่น กังวล บำบัด แผนก ผจัญ
  3. ยืมทั้งคำเดิมและคำที่แผลงแล้วมาใช้ เช่น เกิด-กำเนิด ขลัง-กำลัง เดิน-ดำเนิน ตรา-ตำรา บวช-ผนวช
  4. ใช้เป็นคำสามัญทั่วไป เช่น ขนุน เจริญ ฉงน ถนอม สงบ เป็นต้น
  5. ใช้เป็นคำในวรรณคดี เช่น ขจี เชวง เมิล สดำ สลา เป็นต้น
  6. ใช้เป็นคำราชาศัพท์ เช่น เขนาย ตรัส ทูล บรรทม เสวย เป็นต้น
  7. นำมาใช้ทั้งเป็นภาษาพูดและภาษาเขียน
ตัวอย่างภาษาเขมรในภาษาไทย 
กระชับ กระโดง กระเดียด กระบอง กระบือ กระท่อม กระโถน กระพัง ตระพัง ตะพัง กระเพาะ กระแส กังวล กำจัด กำเดา รัญจวน ลออ สกัด สนอง สนุก สดับ สบง สังกัด สไบสำราญ สรร สำโรง แสวง แสดง กำแพง กำลัง ขนาน ขจี โขมด จัด เฉพาะ ฉบับ เชลย โดยทรวง ถนน บายศรี ประกายพรึก ปรับ ประจาน โปรด เผด็จ ผจญ ผจัญ เผอิญ เผชิญ เพ็ญเพลิง เพนียด ระลอก

บทเพลงคำยืมที่มาจากภาษาเขมร 
คำเขมรที่ใช้ปนมาอยู่ในภาษาไทยมีมากหลาย
เราคนไทยใช้กันจนเก่า เรานิยมใช้เป็นราชาศัพท์ เช่น สนับเพลา
เสด็จ เสวย เขนย ขนง อีกธำมรงค์ ผทม สรง และพระศรี
มีทั้งคำ บัง บัน บรร และบำ นำหน้าคำที่มีสองพยางค์
บังเอิญ และ บังคับ ทั้งบรรเจิด บรรสาน บันดาล และบำนาญนั่น
ยังมีคำที่นำด้วย กำ คำ จำ และ ทำ ดำ ตำ กับ ชำ
ใช้นำหน้าคำอีกเช่นกัน นั่นคือ กำเนิด จำเริญ
ดำรง คำนับ ชำนาญ กำนัล ทำนบ และตำรวจนั้นก็คำเขมรไง
ยังมีคำที่มีอักษรนำ ควบกล้ำ เราใช้ปนคำไทย รู้กันดีว่า
ขจี เจริญ โขลน ทวาร และเผอิญ เผชิญ เสน่ง สลา
ขจร ขจาย ผกาย ผกา เหล่านี้นา ล้วนมาจาก เขมร